ศพสยองข้างทาง
ตอนสาย ๆ วันที่ 15 มกราคม 1947 ถนนนอร์ตัน สวนสาธารณะไลเมิร์ต ชานเมืองลอสแอนเจลีส สหรัฐอเมริกา เบ็ตตี้ เบอร์ซิงเกอร์ แม่บ้านกำลังพาลูกสาวตัวน้อยแอนนี่เดินไปซ่อมรองเท้าของแก ที่สุดถนนนอร์ตันใกล้ ๆ นี้เอง เมื่อเดินผ่านสวนสาธารณะแอนนี่ลูกสาวตัวน้อยเหลือบไปเห็นของบางอย่างข้างทางเข้า "มันเป็นร่างขาวโพลน นอนอยู่บริเวณหญ้าที่ขึ้นรก มันเหมือนตุ๊กตาตัวโต ๆ ที่ชำรุด" สองแม่ลูกเข้าไปใกล้ตัวความอยากรู้อยากเห็นว่ามันคืออะไรกันแน่ แต่เมื่อเธอเข้าไปดูใกล้ๆ เผยความจริงเธอถึงกับช็อก เพราะร่างนั้นไม่ใช้หุ่นแต่เป็นศพของผู้หญิงเปลือยโล่งโจ้ง ถูกหั่นบั่นเอวจนร่างขาดจากกันเป็นสองท่อนอย่างประณีต ราวกับอาวุธที่ใช้เป็นมีดหั่นเนื้อที่คมกริบ เอวเธอจึงขาดออก รอยแผลเรียบไม่มีเนื้อเยื่อหรือเอ็นขาดกะรุ่งกะริ่ง แม้ร่างแยกออกเป็นสองท่อน ใบหน้าของเธอยังดูยิ้ม นัยน์ตาเปิดอยู่ครึ่ง ๆ ปากเผยอยิ้มน้อย ๆ และมุมปากเหยียดออกทั้งสองข้างอย่างสยดสยอง ส่วนท่อนร่างก็สยองไม่แพ้ท่อนบน ด้วยมันเปลือยเปล่าและวิตถารที่สุดคือกระจุกเศษไม้ใบหญ้าที่ถูกยัดเข้าไปในช่องเพศจนเปิดอ้า ช่างน่าสยดสยองอย่างยิ่ง
○ พบศพ ○
แอนนี่รีบฉุดแม่หนีจากภาพสยอง พอเบ็ตตี้ได้สติเธอวิ่งหาโทรศัพท์สาธารณะหาตำรวจแจ้งเหตุร้าย และในขณะเดียวกันกับนักดับเพลิงประจำท้องถิ่นผ่านมาถึงกับหยุดจอดเพราะนึกว่ารูปปั้นทิ้งไว้ แต่พอเห็นศพทั้งคู่ถึงกับโก่งคออาเจียนจนหมดไส้หมดพุง ไม่กี่นาทีตำรวจทั้งสองนายก็มาถึงในที่เกิดเหตุ ไม่ต้องค้นหาให้ยุ่งยากเลยว่าศพอยู่ไหน เพราะมันนอนเด่นเป็นสง่าอยู่นั่นไงไม่นานพวกนักข่าว ช่างภาพ ประชาชนเริ่มเข้ามาสถานที่เกิดเหตุก่อนตำรวจเสียอีก และย่ำสถานที่เกิดเหตุจนเละเทะไปหมด มันทำให้การทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจยุ่งยากไม่น้อยเลย อย่างไรก็ตามตำรวจสรุปว่า สภาพโดยรวมที่พบศพ ไม่มีรอยเลือดแม้แต่น้อย ทั้ง ๆ ที่ศพถูกตัดขาดเป็นสองท่อน ตัวศพเองก็ขาวซีดเผือดเพราะเลือดไหลออกไปทุกหยาดหยดแล้ว แสดงว่าศพผู้ตายถูกฆ่าและหั่นร่างจากที่อื่น และฆาตกรเอาศพของเธอมาทิ้งที่ถนนนอร์ตัน ประเด็นที่สำคัญคือ มันเอาศพเธอมาทิ้งทำไมตรงนี้? เนื่องจากจุดนี้เป็นที่สาธารณมีคนเดินผ่านไปผ่านมาเกือบตลอดทั้งวัน คล้ายกับฆาตกรจงใจโชว์ผลงานของมันให้ประชาชนเห็นได้ชัด ๆ แล้วฆาตกรมันเอาศพมาทิ้งได้อย่างไร มันไม่ใช่ของง่าย ๆ เลย ฆาตกรต้องเสี่ยงต่อการถูกพบเห็นและถูกจับได้ มีทางเป็นไปได้ว่าคนร้ายนำศพมาไว้ตรงนั้นเพียงไม่กี่ชั่วโมง ก่อนที่หนูน้อยแอนนี่จะไปเห็นเข้า แต่ปริศนาก็คลี่คลาย เมื่อเด็กส่งหนังสือพิมพ์ที่ต้องใช้เส้นทางนี้ทุกเช้าตรู่ เขาเห็นรถสีดำแล่นช้า ๆ มาตามขอบถนนใกล้ ๆ กับที่ทิ้งศพนั้น ในที่สุดศพทั้งสองท่อนก็ถูกนำไปยังนิติเวช เพื่อชันสูตรและถ่ายรูปไว้อย่างละเอียดจากนั้นก็ถูกนำไปเก็บในช่องแช่แข็งแช่ศพเพื่อทำรูปคดีต่อไป จนได้ข้อมูลชวนสยองนี้เข้า
แอนนี่รีบฉุดแม่หนีจากภาพสยอง พอเบ็ตตี้ได้สติเธอวิ่งหาโทรศัพท์สาธารณะหาตำรวจแจ้งเหตุร้าย และในขณะเดียวกันกับนักดับเพลิงประจำท้องถิ่นผ่านมาถึงกับหยุดจอดเพราะนึกว่ารูปปั้นทิ้งไว้ แต่พอเห็นศพทั้งคู่ถึงกับโก่งคออาเจียนจนหมดไส้หมดพุง ไม่กี่นาทีตำรวจทั้งสองนายก็มาถึงในที่เกิดเหตุ ไม่ต้องค้นหาให้ยุ่งยากเลยว่าศพอยู่ไหน เพราะมันนอนเด่นเป็นสง่าอยู่นั่นไงไม่นานพวกนักข่าว ช่างภาพ ประชาชนเริ่มเข้ามาสถานที่เกิดเหตุก่อนตำรวจเสียอีก และย่ำสถานที่เกิดเหตุจนเละเทะไปหมด มันทำให้การทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจยุ่งยากไม่น้อยเลย อย่างไรก็ตามตำรวจสรุปว่า สภาพโดยรวมที่พบศพ ไม่มีรอยเลือดแม้แต่น้อย ทั้ง ๆ ที่ศพถูกตัดขาดเป็นสองท่อน ตัวศพเองก็ขาวซีดเผือดเพราะเลือดไหลออกไปทุกหยาดหยดแล้ว แสดงว่าศพผู้ตายถูกฆ่าและหั่นร่างจากที่อื่น และฆาตกรเอาศพของเธอมาทิ้งที่ถนนนอร์ตัน ประเด็นที่สำคัญคือ มันเอาศพเธอมาทิ้งทำไมตรงนี้? เนื่องจากจุดนี้เป็นที่สาธารณมีคนเดินผ่านไปผ่านมาเกือบตลอดทั้งวัน คล้ายกับฆาตกรจงใจโชว์ผลงานของมันให้ประชาชนเห็นได้ชัด ๆ แล้วฆาตกรมันเอาศพมาทิ้งได้อย่างไร มันไม่ใช่ของง่าย ๆ เลย ฆาตกรต้องเสี่ยงต่อการถูกพบเห็นและถูกจับได้ มีทางเป็นไปได้ว่าคนร้ายนำศพมาไว้ตรงนั้นเพียงไม่กี่ชั่วโมง ก่อนที่หนูน้อยแอนนี่จะไปเห็นเข้า แต่ปริศนาก็คลี่คลาย เมื่อเด็กส่งหนังสือพิมพ์ที่ต้องใช้เส้นทางนี้ทุกเช้าตรู่ เขาเห็นรถสีดำแล่นช้า ๆ มาตามขอบถนนใกล้ ๆ กับที่ทิ้งศพนั้น ในที่สุดศพทั้งสองท่อนก็ถูกนำไปยังนิติเวช เพื่อชันสูตรและถ่ายรูปไว้อย่างละเอียดจากนั้นก็ถูกนำไปเก็บในช่องแช่แข็งแช่ศพเพื่อทำรูปคดีต่อไป จนได้ข้อมูลชวนสยองนี้เข้า
0 comments:
Post a Comment